10 ไอเดียประตูไม้สุดเก๋ เพิ่มเสน่ห์บ้านให้ไม่เหมือนใคร

วันนี้ คลังวัสดุไม้ ขอพาทุกท่านมาดู 10 ไอเดียประตูไม้ดีไซน์ไม่เหมือนใคร ที่ทั้งสวย ใช้งานได้จริง และดึงเสน่ห์ความเป็น “ไม้” ออกมาอย่างเต็มที่

  1. ประตูบานคู่ไซซ์เล็ก (Mini Double Doors)

ประตูบานคู่ไซซ์มินิ เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่ให้กลิ่นอายอบอุ่นแบบบ้านยุโรป บานไม่ใหญ่จนเทอะทะ แต่ดูน่ารักและมีลูกเล่น จะทำด้วยไม้โอ๊ค ไม้สัก หรือไม้แปรรูปสีอ่อนก็ดูดี เหมาะมากกับห้องเก็บของ ห้องครัว หรือประตูหลังบ้าน

ข้อดี: เปิด-ปิดได้สะดวกแม้พื้นที่แคบ เพิ่มความคลาสสิกให้บ้านแบบไม่ต้องพยายาม

  1. ประตูรางเลื่อนพับ (Folding Sliding Door)

ผสมผสานระหว่างประตูบานเลื่อนกับประตูพับ มีรางอยู่ด้านบนหรือด้านล่าง ตัวบานสามารถพับและเลื่อนไปด้านใดด้านหนึ่งได้ เปิดออกได้กว้างเหมาะกับโซนที่ต้องการเชื่อมภายในกับภายนอก เช่น ห้องนั่งเล่นกับสวน

ไม้แนะนำ: ไม้ยางพาราอบแห้งหรือไม้เต็ง ที่มีน้ำหนักกำลังดีและแข็งแรงพอสำหรับบานพับหลายตอน

  1. ประตูบานเลื่อนซ่อนผนัง (Pocket Sliding Door)

ใครอยากได้บ้านเรียบ ๆ สะอาดตา ต้องไอเดียนี้เลย ประตูแบบนี้จะเลื่อนหายเข้าไปในผนังเมื่อเปิด ไม่เกะกะสายตา เหมาะกับบ้านสมัยใหม่หรือคอนโดที่พื้นที่จำกัด

เคล็ดลับ: ใช้ไม้ลามิเนตลายไม้ธรรมชาติ ให้ผิวสัมผัสกลมกลืนกับผนังรอบ ๆ

  1. ประตูหมุนกลาง (Pivot Door)

ดีไซน์โดดเด่น ทันสมัย แกนของประตูไม่ได้ติดที่ขอบแบบประตูทั่วไป แต่ติดตรงกลางหรือเยื้องออกมา ทำให้เปิดออกมาด้วยจังหวะพิเศษ ดูหรูหราและเป็นศิลปะ

ไม้แนะนำ: ไม้จริงขนาดใหญ่ เช่น ไม้มะค่า ไม้ประดู่ หรือไม้แปรรูปประกบกันหลายชั้นเพื่อเพิ่มความมั่นคง

  1. ประตูกลืนผนัง (Invisible Door)

ประตูที่เหมือนไม่ใช่ประตู เพราะทำลายให้เหมือนผนังรอบข้าง ใช้บานไม้ลายเดียวกับผนัง หรือบุด้วยแผ่นไม้เรียบไร้มือจับ เหมาะกับบ้านที่ต้องการความมินิมอล

เหมาะกับ: ห้องเก็บของ ห้องน้ำ หรือห้องส่วนตัวที่ไม่อยากให้สังเกตเห็นชัด

  1. ประตูไม้ระแนงโปร่ง (Slatted Wooden Door)

ประตูแบบโปร่งที่ช่วยระบายอากาศ เหมาะกับห้องที่ต้องการอากาศถ่ายเท เช่น ห้องซักผ้า ห้องเก็บของ หรือโซน outdoor ใช้ไม้ระแนงเรียงเว้นช่องอย่างเป็นระเบียบ

ไม้ยอดนิยม: ไม้แดง ไม้เต็ง หรือไม้เทียมกันปลวก

  1. ประตูบานเลื่อนกระจกกรอบไม้

นำความโปร่งของกระจกมาผสมกับความอบอุ่นของไม้ สร้างสมดุลระหว่าง “มองทะลุ” กับ “สัมผัสธรรมชาติ” เหมาะกับบ้านลอฟต์ บ้านสไตล์ญี่ปุ่น หรือบ้านโมเดิร์น

เทคนิคเสริม: ใช้ไม้กรอบบาง ๆ เพื่อให้บานดูเบาและทันสมัย

  1. ประตูบานพับแนวตั้ง (Vertical Folding Door)

แตกต่างจากประตูพับแนวนอนทั่วไป เพราะเปิด-ปิดแบบพับขึ้นด้านบน ช่วยประหยัดพื้นที่ด้านข้าง นิยมใช้กับห้องทำงาน หรือโรงรถที่อยากให้ดีไซน์ลื่นไหล

ข้อควรระวัง: ต้องใช้ไม้ที่มีความยืดหยุ่นสูง และมีน้ำหนักเบาพอจะพับขึ้นลงได้

  1. ประตูแนวทแยง (Diagonal Sliding Door)

เปลี่ยนจากแนวตรง ๆ มาเป็นการเลื่อนแบบเฉียงหรือองศา ทำให้ได้มุมมองใหม่ ๆ เหมาะกับบ้านทรงเรขาคณิต หรือบ้านแนวศิลป์

ดีไซน์น่าสนใจ: เล่นกับลายไม้เฉียงขวาง หรือติดแผ่นไม้เฉียงสลับสีดูทันสมัย

  1. ประตูไม้หมุนรอบตัว (360° Rotating Door)

ดีไซน์สุดล้ำ! ประตูแบบนี้เปิดหมุนได้รอบแกน ใช้เป็นทั้งทางเข้าและฉากโชว์ เหมาะสำหรับบ้านโชว์สไตล์ หรือใช้ในร้านกาแฟ สตูดิโอที่อยากเพิ่มลูกเล่น

ไม้แนะนำ: ใช้ไม้เนื้อแข็งผิวเรียบ และต้องติดตั้งระบบแกนหมุนที่แข็งแรง

สรุป:

ไม้เป็นวัสดุที่ไม่เคยตกยุค ยิ่งถ้าเลือกดีไซน์ประตูให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ก็จะยิ่งทำให้บ้านน่าอยู่และมีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น

คลังวัสดุไม้ พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำไม้คุณภาพหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้จริง ไม้แปรรูป หรือไม้เทียม เพื่อให้คุณได้ประตูที่ทั้งสวยและทนทาน ใช้งานได้จริง

หากคุณมีแบบในใจ หรืออยากให้เราช่วยออกแบบเฉพาะทาง เรายินดีให้บริการครับ